LINK: https://www.dpstdriveresearch.org/palangpon-kongsaeree
ผมเป็นสมาชิกครอบครัวพสวท. มานานกว่า 3 ทศวรรษ และได้รับเกียรติมีชื่อใน “หอเกียรติยศของโครงการพสวท.”ซึ่งเป็นโครงการที่มุ่งมั่นอย่างยิ่งในการสร้างนักวิทยาศาสตร์ให้กับสังคมไทย เพื่อเป็นรากฐานของการศึกษาและการวิจัย เพื่อใช้ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและเป็นหลักให้กับสังคม ผมเชื่อว่ามีอีกหลายท่านที่ทำงานหนักและมากยิ่งกว่าผม และจะได้รับเกียรตินี้ในปีต่อๆ ไป และผมก็ได้เสนอชื่อท่านอื่นแทนชื่อผม ตอนที่ได้รับการติดต่อในตอนแรก
ผมยังจำวันที่ ดช.พลังพล ไปสอบคัดเลือก ข้อสอบสนุกและสร้างสรรค์แบบประหลาด มีรูปกบในบ่อน้ำ แล้วถามว่าอยากถามอะไร และการสัมภาษณ์ที่มีคำถามที่ชวนให้คิดและท้าทาย เหมือนตอบปัญหาเชาว์ต่อเนื่องกัน เมื่อตัดสินใจรับทุน จึงต้องเปลี่ยนโรงเรียนจากใกล้บ้าน มาโรงเรียนสามเสน ที่ใช้เวลาปรับตัวในการเดินทาง แต่ก็ดีที่มีคุณอาคอยส่งและรับ (สมัยก่อนไม่มีโทรศัพท์แต่ก็นัดกันได้ คงเพราะรถไม่ติด ประมาณเวลาได้) ในวันที่โครงการฯ พสวท. ยังตั้งไข่ หลายอย่างไม่ลงตัวนัก แต่ก็สนุกอีกแบบ ได้ลองอะไรใหม่ๆ เป็นเหมือนเด็กเนิร์ดในโรงเรียนที่ต้องเรียนวิทย์/คณิตมากขึ้นและต้องทำโครงงานวิทยาศาสตร์ ในวันที่มีพลังแห่งการเรียนรู้มาก ก็มีเรื่องสนุกๆ ทุกวัน เรียนไม่ยากนักเลยมีกิจกรรมให้ทำเยอะ ทั้ง 3 ปีของการเรียนมัธยมปลาย เรื่องที่สำคัญในชีวิตคือการเข้าค่ายพสวท. ช่วงปิดภาคฤดูร้อน ทั้ง ม.4 และ ม.5 ที่สสวท. ก็ทำให้ได้รู้จักเพื่อนๆ พสวท. ซึ่งเป็นความรู้สึกที่ผูกพันตลอดมาทั้งชีวิต
การเรียนในมหาวิทยาลัยก็เต็มไปด้วยกิจกรรม และกิจกรรม เพื่อนๆ ที่ศาลายาก็เรียก “ปิงเอสซี” ติดปาก จนถึงเรียนจบปริญญาเอกด้วยทุนการศึกษาจากรัฐบาลผ่านโครงการพสวท. เริ่มทำงานที่ภาควิชาเคมี คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ที่ได้ให้โอกาสในการสร้างชีวิตด้วยความเมตตา สั่งสอนจากอาจารย์ผู้ใหญ่ระดับเอกอุมากมายที่คณะวิทย์ มหิดล และอีกหลายสถาบัน ผมระลึกตลอดมาว่าจะต้องตอบแทนบุญคุณแก่แผ่นดินนี้ที่ให้โอกาส (แบบที่พ่อและปู่บอก)
ถึงวันนี้ที่เติบโตมา หลายเรื่องราวเมื่อคิดย้อนกลับไป ทำให้ยิ่งทึ่งและชื่นชม “ผู้ใหญ่” สมัยก่อนที่ผลักดันโครงการดีๆ อย่างโครงการพสวท. (และตอนนั้นเราก็เชื่อว่าดี) หรือการก่อตั้งคณะวิทยาศาสตร์การแพทย์ รวมพลังให้คนคิดเห็นในแนวทางเดียวกัน และสร้างผลผลิตเป็นบัณฑิตที่มีคุณภาพ เพื่อเป็นฐานให้สังคมไทยในปัจจุบัน ทำให้คิดว่า “เรา” จะสร้างอะไรดีๆ ให้กับสังคมไทยอย่างยั่งยืนได้บ้าง ในโลกแห่งการเปลี่ยนแปลง และโอกาสที่มีมากกว่าแต่ก่อนมาก
ผมรู้สึกว่าโชคดี และ “โชค” เป็นส่วนหนึ่งในชึวิต การพาตัวเองไปในโรงเรียนที่มี “ครู” ดี มีสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสมกับการเรียนรู้ ต้องขอบพระคุณผู้ใหญ่ ขอบคุณเพื่อน พี่ ลูกศิษย์ เพื่อนร่วมงาน และสถาบันที่สนับสนุน รวมถึงครอบครัวที่อบอุ่น
ผมเชื่อว่าโลกจะยิ่งหมุนเร็ว และโอกาสที่เราจะทำอะไรดีๆ ให้กับสังคมมีอีกมาก
มาร่วมกับสร้างสังคมไทย ด้วยวิทยาศาสตร์ และสร้างแรงบันดาลใจให้คนรุ่นต่อๆ ไป
พลังพล 24.6.2563